ข้อดีและข้อเสียของการดื่มกาแฟ
ข้อดีและข้อเสียของการดื่มกาแฟ
ทางมอนโตเร่ ได้มีผลวิจัยนำมาเผยแพรเกี่ยวกับการดื่มกาแฟ ถึงแม้ว่าการดื่มกาแฟจะช่วยลดความหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้าและความเครียดได้ ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข คลายเครียดได้ในระดับหนึ่ง แต่กาแฟก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียของการดื่มกาแฟ อย่างไรก็ดี เพื่อสุขภาพ ก็ควรดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำตาล นม และครีมเทียม ในปริมาณที่จำกัด เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพ และที่สำคัญควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการนะคะ
ข้อดีของการดื่มกาแฟ
1. มีฤทธิ์ เป็นยาระบายและยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน ๆ
2. กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
3. ทำให้ตื่นตัวและแก้ง่วงได้
4. ลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่ว
5. กาแฟช่วยลดความเครียด (คนที่ดื่มกาแฟประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน จะลดความเครียดได้ประมาณ 15 % แต่หากดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะสามารถลดความเครียดได้ถึง 20% เลยทีเดียว)
6.ช่วยกระตุ้นความจำ
7. รอดจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (จากการศึกษาของภาคการเกษตรและเคมีอาหารของสหรัฐอเมริกา ทำให้ทราบว่า นักดื่มกาแฟตัวยง จะมีโอกาสรอดพ้นจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ประมาณ 50% เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณสมบัติช่วยยับยั้ง hIAPP และโพลีเปปไทด์ ตัวการก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 )
8. ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง (มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า การดื่มกาแฟวันละ 2-5 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของคาเฟอีน จะช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับได้ในระดับหนึ่ง)
9. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ
10. ลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน
11. ลดโอกาสเป็นโรคเกาต์ (มีผลการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งหนึ่งยืนยันว่า คาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาการอักเสบของข้อ เนื่องมาจากกรดยูริกที่เกินขนาดอย่างได้ผล และคนที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 60%
12. ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ 50%
13.ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคตับแข็ง 80%
14.ช่วยลดอาการปวดหัว บ่อยครั้งที่คาเฟอีน (Caffeine) ถูกใช้เป็นยาแก้ปวดหัวโดยเฉพาะอาการปวดหัวจากไมเกรน โดยสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ถึง 40% นอกจากนี้ยาแก้ปวดหลายประเภทยังมีส่วนผสมคาเฟอีน (Caffeine) 65 mg เช่น Aspirin, Ibuprofen, Acetaminophen
15.ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในผู้หญิง 25%
16.ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดในผู้หญิง 43%
17.ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ข้อเสียของการดื่มกาแฟ
1. ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น (จากการศึกษาวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นนานถึง 12 ชั่วโมง ดังนั้น กลุ่มคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจึงไม่ควรดื่มกาแฟขณะรู้สึกเครียดหรือมีแรงกดดันมากจากการทำงาน)
2. คาเฟอีนในกาแฟจะส่งผลกระทบต่อการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี ดังนั้น เด็กจึงไม่ควรดื่มกาแฟ
3. กาแฟจะทำให้ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลในกระเพาะร้ายแรงขึ้น เนื่องจากกาแฟจะทำให้กระเพาะอาหารมีน้ำย่อยออกมามากขึ้น จนทำให้เป็นแผลมากขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารที่เป็นแผลในกระเพาะไม่ควรดื่มกาแฟมาก โดยเฉพาะในช่วงท้องว่าง
4. กาแฟทำให้เกิดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน (เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณประโยชน์ทำให้ขับปัสสาวะมากขึ้น แต่ถ้าดื่มกาแฟเป็นเวลานานจะทำให้สูญเสียแคลเซียมไปกับปัสสาวะมากจนเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงวัยทองไม่ควรดื่มกาแฟมากเกินควร)
5. หญิงตั้งครรภ์ ถ้าดื่มกาแฟมากเกินไปจะทำให้ทารกที่อยู่ในครรภ์เจริญเติบโตไม่เป็นปกติ หรืออาจแท้งได้ เนื่องจากคาเฟอีนจะส่งผลต่ออวัยวะภายในของทารกที่ยังอ่อนแอ
6. กาแฟมีผลต่อการดูดซึมวิตามิน B1 ซึ่งเป็นวิตามินที่รักษาความสมดุลและความมั่นคงของระบบประสาท ดังนั้น ผู้ที่ขาดวิตามิน B1 จึงไม่ควรดื่มกาแฟ
7. คนเป็นโรคหัวใจไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีนมีบทบาทในการกระตุ้นหัวใจ ทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าเป็นคนสูงอายุที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้วจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจดีเกินไป มีการทำงานของหัวใจที่หนักมากยิ่งขึ้น และทำให้หัวใจเสื่อมเร็วยิ่งขึ้นด้วย
8. คาเฟอีนในกาแฟจะแทรกแซงการหลับด้วยคลื่นรบกวนช้าๆ แต่ว่าลึกๆ ซึ่งทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
9. ทำให้เกิดน้ำหนักเกิน เนื่องจากน้ำตาล นม และครีมที่เติมเข้าไป นอกจากนี้การดื่มกาแฟยังมักนิยมรับประทานควบคู่กับขนม เช่น เค้ก หรือคุกกี้ต่างๆ จึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักได้ง่าย
10. การดื่มในปริมาณมากทำให้เกิดอาการมือสั่น กระวนกระวาย โกรธง่ายและปวดศีรษะ มีผลต่อหัวใจและเส้นเลือด ทำให้กล้ามเนื้อของหลอดเลือดคลายตัวหรือบีบรัดมากขึ้น เกิดความเครียดได้ง่าย
จากที่กล่าวไว้ข้างต้นของข้อดีและข้อเสียของการดื่มกาแฟ แต่จะดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากกว่าโทษ มาดูกันคะ
– ดื่มกาแฟเพียงวันละ 1-2 ถ้วย
– ดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล
– ใช้สารให้ความหวานแทนการใส่น้ำตาล
– ใช้นมสดจืดแทนครีมเทียม
– ดื่มกาแฟร้อนแทนกาแฟเย็น
– ลดขนาดแก้วให้เล็กลง
– ไม่เพิ่มวิปปิ้งครีม
– งดกาแฟปั่น
สรุปว่าควรหลีกเลี่ยงสารปรุงแต่ให้ได้มากที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นคะ